ลูกข่าง ของเล่นและความรัก
ฉันอกหักตามระเบียบเรียบร้อยแล้ว
เหลือแต่แววสังเวชซากเศษหวัง
ธงปราชัยชักปราดขึ้นพาดบัง
ความจริงจังทั้งสิ้นจึงชินชา
เหวี่ยงลูกดิ่งทั้งสายด้วยปลายนิ้ว
มันวู่หวิวลิ่ววงลงหวือหวา
แล้วล้อสายร่ายกลับรับขึ้นมา
เกลียวเชือกพาพันสายเป็นหลายเกรียว
สัมผัสเนียนความหน่วงที่พวงนิ้ว
เฉื่อยเฉื่อยฉิวฉิวโรยโรยเสียวเสียว
เกลียวเชือกบิดสะบัดอยู่เพียงครู่เดียว
ความแน่นเหนียวหน่วงสายคลี่คลายวง
ในความหมุนวุ่นวายคล้ายลูกข่าง
คือความว่างวิ่งวนบนความหลง
อารมณ์เอิบเคลิบเคลิ้มเริ่มงวยงง
เมื่อความคงที่กลายเกลียวสายใย
สายสวาทขาดลงตรงจุดนี้
ความหวังคลี่คลายวงจากหลงใหล
พลังรักลดตามความเป็นไป
พันธะใจจึงสุดจะยุดยื้อ
อารมณ์คือเครื่องเล่นเป็นนามรูป
ย่อมวาบวูบเวียนตามความยึดถือ
เมื่อใจแตกแหลกยับลงกับมือ
ใครเล่าคือคนที่ขยี้มัน
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
น้ำตา
ปาดน้ำตาจากแก้มแต้มกระดาษ
เป็นประกาศกลอนแปดแผดศัพท์เสียง
ทดความแค้นแทนความช้ำร่ำเจรียง
ท้นเอ่อเพียงอกพังคั่งคับใจ
เสียแรงออมอารมณ์ข่มความคิด
คำน้อยนิดหนึ่งสะเทือนไม่เคลื่อนไข
ใครจะหมิ่นเมินหมางก็ช่างใคร
นี่ไฉนมาช้ำเพราะคำเธอ
รักแสนรักภักดีกี่ปีแล้ว
ทุกรอยแนวใจนั้นมั่นเสมอ
เหมือนไม่พอพิสูจน์พูดสิเพ้อ
ไหนจะเอออวยให้เข้าใจกัน
อารมณ์เอ๋ยโอ้ว่าอารมณ์รัก
หลายเลศนักนึกให้เหนื่อยใจฝัน
เจ็บไม่จำทำลายค่ามาทุกวัน
สารพันพยายามนะความรัก
ขอบคุณ
แด่น้ำตาปร่าปวดรวดร้าวนี้
และโศกที่สะเทือนใจได้ประจักษ์
รสอารมณ์ขมหวานที่พานพัก
เพิ่มแรงผลักผลิตกลอนขจรขจาย
น้ำตาหยดหนึ่งนี้มากมีค่า
ประมวลมาเหมือนฝากมากความหมาย
เตือนให้ลุกปลุกให้สู้อย่างผู้ชาย
และระบายเลบงแต้มแก้มเวลา
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
|